Steve Jobs จะมีวิธี Present ทีท่าที่น่าเกรงขาม น้ำเสียง ท่าทาง และภาษากายที่บ่งบอกถึงอำนาจ ความมั่นใจ และพลัง สามารถดึงดูดคนดูได้ดีเลยทีเดียว
Steve Jobs จะมีวิธี Present ทีท่าที่น่าเกรงขาม น้ำเสียง ท่าทาง และภาษากายที่บ่งบอกถึงอำนาจ ความมั่นใจ และพลัง สามารถดึงดูดคนดูได้ดีเลยทีเดียว
Cr : ipattt.com
วิธีพรีเซ้นท์บท YouTube อันนี้ทำได้เข้าใจง่ายดี
องก์ที่ 1 : วิธีสร้างเรื่องราวของ Steve Jobs
วางแผนแบบ Analog
- การนำเสนอต้องเริ่มบน ?กระดาษและปากกา?
- ใช้เวลา 90 ชั่วโมงสำหรับการนำเสนอ 1 ชั่วโมง และความยาวสไลด์ไม่เกิน 30 หน้า และจงใช้เวลาสร้าง slide เพียง 1/3 ของเวลาทั้งหมดเท่านั้น (ใช้เวลา 27 ชั่วโมงสำหรับการค้นคว้าความรู้จาก ?ผู้เชี่ยวชาญ? เรียบเรียงไอเดีย ประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน และร่างโครงร่างในการนำเสนอ)
สิ่งที่จะสร้างจินตนาการให้ผู้ฟังคือ ?เรื่องราว? ไม่ใช่ ?slide?
- Bullet & numbering ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผู้ฟัง ?จดจำและนำไปปฏิบัติ? (หากอยากใช้เอาไปใช้เอง ในเรื่องรายการของที่จะซื้อในชีวิตประจำวัน)
องค์ประกอบสำหรับการนำเสนอที่ดี
- Headline – ไอเดียที่อยากให้ผู้ฟังจำ ทำให้ง่าย (ไม่ควรเกิน 140 ตัวอักษร)
- คำประกาศที่มาจากใจรัก – มีอารมณ์ร่วม หรือรักในสิ่งที่จะพูด (ต้องมี passion ก่อน)
- ข้อความหลัก 3 คำ – เพราะผู้ฟังจะจำได้แค่ 3-4 คำ เท่านั้น
- ใช้การเปรียบเทียบและอุปมาอุปไมย – เพื่อช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจแนวคิดของเรา
- มีการสาธิต (Demonstration) – เลือกสาธิตสิ่งที่น่าสนใจที่สุดให้เห็น แทนที่จะมานั่งอธิบาย
- หุ้นส่วน (Partner) – แบ่งปันพื้นที่หรือเวทีให้ Partner เราเสมอ (ไม่จำเป็นต้องโชว์เดี่ยว)
- หลักฐานจากลูกค้า – สิ่งที่ผู้คนเชื่อสุดคือ ?Word of Mouth?, เอาคำพูดลูกค้ามาเป็นส่วนในการนำเสนอ
- Video Clip – ควรจำว่าความยาวเฉลี่ยของคลิปใน YouTube คือ 2.5 นาที
- ใช้ Presentation หรืออุปกรณ์ประกอบ และดูก่อนแล้วค่อยเล่า (Show-and-Tell) – เหตุผล ?โดยมากมนุษย์จะเรียนรู้จากการดู, ฟัง และสัมผัส – แต่จะใช้ ?ดู? มากที่สุดก่อน? ข้อควรจำ – slide หรืออุปกรณ์เล่าเรื่องราวไม่ได้ คนเล่าเรื่องราวคือ ?คุณ? เท่านั้น
ตอบคำถามที่สำคัญที่สุด
- เริ่มต้นที่ ?สร้างประสบการณ์กับลูกค้าก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาที่สินค้าของเรา?
- Focus ที่การขาย ?ประโยชน์ของสินค้า? ไม่ใช่ ?ตัวสินค้า?
- หลีกเลี่ยงการพูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง และคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม
- ตอบคำถามให้ชัดเจนที่สุดระหว่างนำเสนอ (มีการกล่าวย้ำซ้ำๆ แบบเนียนๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง)
ตั้งจุดมุ่งหมายให้สูงที่สุด
- ?ทำตามใจรักของคุณ ทำในสิ่งที่คุณรัก แล้วเงินทองจะตามมาเอง คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในเรื่องนี้ แต่มันเป็นความจริง? – Oprah Winfrey
- ต้องมี ?มาดเสน่ห์ของความเป็นผู้นำ?, ?คิดให้แตกต่าง?
- ?แม้คุณจะประสบความสำเร็จทางการเงินในงานที่คุณเกลียดได้ แต่จำไว้คุณไม่มีวันเป็นนักสื่อสารที่จะจุดประกายให้กับคนอื่นได้เลย ความมีใจรัก คือจุดมุ่งหมายสูงส่งที่อยากจะทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น สร้างความแตกต่างให้กับทุกอย่าง? – Carmine Gallo
คิดคำพาดหัวในแบบเดียวกับการเขียน Twitter
- น้อยกว่าเท่ากับ 140 ตัวอักษรสำหรับ Headline/vision/product or services (ตรงประเด็น จำง่าย และนำเสนอประโยชน์ส่วนบุคคล) ตัวอย่าง – ?1,000 เพลงในกระเป๋าคุณ?
- เอา Headline ของคุณมาใช้ซ้ำๆ แบบเนียนๆ ในการสนทนา และวัสดุทางการตลาดต่างๆ ? presentation, publication, clipping-news หรือ website เป็นต้น
- ?Headline เป็นคำประกาศวิสัยทัศน์ในอนาคตที่ดีกว่าเดิมของผู้ฟัง ไม่ใช่ คุณ?
เขียนแผนที่เส้นทาง (Roadmap)
- ใช้กฎกลุ่มละ 3 ในการนำเสนอ เช่น Agenda มี 3 ข้อหลัก หรือ แบ่งการสาธิตใดๆ เป็น 3 ช่วง (เหตุผล – นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเราสามารถจดจำตัวเลขได้ดีเพียง 3-4 หลักเท่านั้น)
- ไม่ว่าจะมีไอเดียในการนำเสนอเยอะแค่ไหน ให้จำไว้ ?จัดกลุ่ม? มันเป็น 3 กลุ่ม แล้วนำมันไปอธิบาย Roadmap ในการนำเสนอของคุณ
- เพิ่มวาทศิลป์ในแต่ละข้อความ เช่น ใช้หลักเปรียบเทียบ อุปมาอุปไมย หรือเสียงสนับสนุนจากบุคคลที่ 3
เปิดตัวศัตรู (Competitor/Problem)
- ?Problem + Solution = Classical of Steve jobs?
- ?ไม่มีใครจะมาสนใจว่าสินค้าจะดีแค่ไหนอย่างไร พวกเขาใส่ใจเฉพาะสิ่งที่จะมาแก้ปัญหาของเขา และช่วยทำให้ชีวิตของเขาสบายขึ้นเท่านั้น?
- ตอบข้อความเหล่านี้ให้ได้ (1) คุณกำลังทำอะไร? (2) คุณจะแก้ปัญหาอะไร? (3) คุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร? (4) ทำไมฉันต้องใส่ใจคุณด้วย?
เปิดตัวฮีโร่ (Solution)
- พยายามอธิบายปัญหาและทางแก้ไขให้ได้ใน 30 วินาที
- หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูล สถิติ และศัพท์เฉพาะที่อาจทำให้ผู้ฟังอาจเกิดอาการสมองชาระหว่างนำเสนอ
- เคารพกฎ 10 นาที – ให้สมองของผู้ฟังได้พักบ้าง (ผู้ฟังจะลดความตั้งใจฟังหลังฟังไป 10 นาที)
องก์ที่ 2 : ส่งมอบประสบการณ์
เปิดช่องทางให้กับความเป็นเซ็นที่อยู่ภายใน
- ?ความเรียบง่ายคือสุดยอดของความลึกล้ำ? – Leornado Davinci
- ?No Bullet? เน้นภาพ และเรียบง่าย
- ?Multimedia Presentation Principle? – นำเสนอคำพูดพร้อมรูปภาพ
- ?Contiguity Principle? (หลักการอยู่ชิดติดกัน) – วางข้อความและภาพให้ชิดติดกันดีกว่าแยกกัน
- ?Split-Attention Principle? (หลักการแบ่งความตั้งใจ) – อย่าให้ผู้ฟังมาอ่านข้อความบนจอเอง ให้เล่าให้ฟัง (ไม่ใช่อ่านให้ฟัง)
- ?Coherence Principle? (หลักการสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว? เมื่ออธิบายด้วยสื่อผสม การใช้ข้อความและรูปภาพน้อย จะดีกว่าการใช้ข้อความและรูปภาพมากเกินไป (อย่าใส่ข้อความหรือรูปในทุกๆ พื้นที่ของ slide)
ตกแต่งตัวเลขของคุณ
- ?เฉพาะเจาะจง ตรงประเด็นและสอดรับบริบท เช่น iPhone 3Gs เร็วเป็นสองเท่าด้วยราคาครึ่งเดียว เป็นต้น
- จำไว้ ?ตัวเลขที่คุณนำไปใช้เสนอจะมีผลต่อผู้ฟังไม่มาก เว้นแต่คุณจะทำให้มันมีความหมายขึ้นมาได้? ?ตัวเลขที่ปราศจากบริบทนั้นไม่สามารถสร้างความประทับใจใดๆ ได้?
ใช้ศัพท์แสงที่สะใจ
- เช่น วิธีที่จ็อบส์อธิบายการโหลดเพลงลง iPod, นิตยสาร Fortune, Nov 2001 – ?เสียบมันเข้าไป?อืมมมม?เสร็จแล้ว??
- เลือกใช้ถ้อยคำที่สะท้อนบริการ Brand หรือสินค้าออกมาได้ดีที่สุด (แต่หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เฉพาะวงการ)
- ?สนุกสนานกับการใช้ถ้อยคำ และแสดงออกถึงความตื่นเต้นกระตือรือร้นต่อสินค้าที่กำลังนำเสนอ?
แบ่งปันเวที
- จำไว้ ?สมองต้องการความหลากหลาย? จำไว้ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือดังแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้ผู้ฟังจดจ่ออยู่ได้นานโดยไม่เหลือบไปมองนาฬิกาเลย
- สิ่งที่คุณไม่รู้ดี – แบ่งปันเวทีให้คนอื่น ไม่จำเป็นต้อง Solo คนเดียวทั้งหมด
- กล่าวขอบคุณ ?เพื่อนพนักงาน Partner และลูกค้าของคุณต่อสาธารณะเสมอ?
ใช้อุปกรณ์ในการนำเสนอของคุณ
- เกณฑ์การสาธิตที่ดี คือ สั้น-เรียบง่าย-ตรงจุด-กระชับ-ได้สาระ
- ให้บางสิ่งบางอย่างกับผู้ฟังให้ได้เรียนรู้ทั้ง – ดู/ฟัง/สัมผัส
เปิดช่วง ?โอ้แม่เจ้า?
- ?ผู้คนจะลืมสิ่งที่คุณพูด ผู้คนจะลืมสิ่งที่คุณทำ แต่ไม่มีวันลืมความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากคุณ? – Maya Angekou
- ใช้การเล่าเรื่องของคุณ เปิดเผยข้อมูลใหม่ๆ ที่ผู้ฟังคาดไม่ถึง หรือใช้การสาธิตที่จะสร้างความทรงจำที่ดีให้กับกลุ่มผู้ฟัง
- ?นวนิยายที่ดีจะไม่เผยพล็อตเรื่องทั้งหมดออกมาแต่แรก แต่จะค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อยอย่างน่าติดตาม ตามลำดับ?
องก์ที่ 3 : ขัดเกลาและฝึกซ้อม
เทคนิคการครองเวที (ควรเปิด YouTube ดูการนำเสนอของ Jobs)
- ลักษณะเด่นที่ทำให้จ๊อบส์ครองเวทีในการนำเสนอได้ คือ ทีท่าที่น่าเกรงขาม น้ำเสียง ท่าทาง และภาษากายที่บ่งบอกถึงอำนาจ ความมั่นใจ และพลัง
- ?เน้นคำสำคัญในทุกย่อหน้า และเน้นเป็นพิเศษกับคำที่สำคัญที่สุดในประโยค รวมถึงออกท่าทางและใช้มือประกอบการพูด (Body Language)? – ลองหา clip ใน YouTube ของ Steve Jobs
เทคนิค 3 ประการที่จะช่วยพัฒนาภาษากาย (Body Language)
- ?สบตา? – สบตากับผู้ฟัง และอ่านข้อความจาก slide หรือ Note ที่จดมาให้น้อยที่สุด (ต้องฝึกมากหากอยากทำได้เนียน)
- ?ยืนในท่าเปิด? – อย่าไปยืนหลังโพเดียม หรือเอามือมาประสานไว้ข้างหน้า ?การยืนในท่าเปิด? หมายถึง ต้องไม่นำอะไรมาขวางกันระหว่างผู้นำเสนอกับผู้ฟัง
- ?ใช้มือประกอบการพูด? – การทำให้มือสองข้างอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนเลยทำให้คุณดูแข็ง เกร็ง และเป็นงานเป็นการมากเกินไป และบางทีอาจทำให้คุณดูแปลกได้
- มีงานวิจัยสนับสนุนว่า ?นักพูดที่มีความสามารถพิเศษเหนือผู้อื่นมักจะออกท่าทางมากกว่าผู้พูดทั่วไป (McNeill, 1980)
- อย่างไรก็ตามต้องฝึกฝนให้ออกท่าทางงอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่เยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป
การพูดอย่างมีสไตล์ – เล่าเรื่องให้ได้ด้วยน้ำเสียง และอารมณ์ที่เหมาะเจาะ สิ่งที่ต้องคำนึง
- เสียงสูง-ต่ำ – อย่า monotone
- มีการหยุดเว้นช่วง – การสร้างอารมณ์ได้ดีคือหยุดเว้นช่วงในจังหวะที่เหมาะสม
- ระดับความดังของเสียง – ตัวอย่างของ Jobs
- มักใช้เสียงดังเร้าอารมณ์เมื่อเปิดตัวสินค้าใหม่มาแรง
- ใช้การลดเสียงให้ค่อยในช่วงการสร้างความอยากรู้อยากเห็นก่อนประกาศเรื่องสำคัญ และเร่งเสียงให้ดังขึ้นเมื่อมาถึงจุดสำคัญ
- ระดับความเร็ว – พูดเป็นความเร็วปกติ แต่พูดให้ช้าลงเมื่อถึง ?Headline? และ ?ข้อความที่สำคัญ?
- วิธีการฝึกที่ดี – ให้บันทึกการพูดของตัวเองไว้ เพื่อดูการพูดและ Body language (การฟังวิธีการพูดของตัวเองคือวิธีการที่ดีที่สุดในการพัฒนาการนำเสนอของคุณเอง?
ทำให้มันดูเป็นเรื่องง่าย
- การฝึกซ้อมเพื่อการพัฒนา คือ หัวใจสำคัญที่สุด
- ฝึกตอบคำถามที่ไม่รู้ล่วงหน้า
- คิดคำถามที่น่าจะถูกถามให้มากที่สุด
- แยกประเภทคำถามที่คิดขึ้นมาได้
- หาคำตอบที่ดีที่สุดแยกตามประเภทคำถามที่ถูกแยก
- ฟังคำถามให้ดี จับคำหลักให้ได้
- สบตาผู้ถามพร้อมตอบด้วยความมั่นใจ
แต่งกายให้เหมาะสม
- ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับกาลเทศะและสถานที่ (ข้อคิด – ผู้นำที่ยิ่งใหญ่จะแต่งตัวดีกว่าคนในห้องเล็กน้อย)
- แต่งตัวให้เหมือนผู้นำที่คุณอยากเป็น ไม่ใช่ตำแหน่งที่คุณเป็น
โยนสคริปต์ทิ้งไป
- ?อย่าอ่าน Note เวลานำเสนอ!!!?
- 5 ขั้นตอนในการโยนสคริปต์ทิ้งไป
- เขียนไอเดียแบบเต็มประโยคในช่อง Note ใน PowerPoint อย่างง่ายๆ เอาให้ง่ายอย่าให้เกิน 4-5 ประโยค
- Highlight ข้อความสำคัญ และ ?ซ้อมๆๆ?
- หลังซ้อมๆๆๆ ให้กลับมาลบข้อความส่วนเกินใน Script ทิ้งไป ให้เหลือเพียงข้อความสำคัญเพื่อเตือนความทรงจำเท่านั้น
- จำไว้ ?1 ไอเดียสำคัญ ต่อ 1 slide เท่านั้น?
- สุดท้ายฝึกซ้อมการนำเสนอทั้งหมดโดยไม่ใช้ Note อาศัยแค่ slide เป็นตัวบอกบท ซ้อมพูดแต่ละ slide อย่างน้อย 4 ครั้ง
สนุก
- เข้าใจคำว่า ?สาระบันเทิง? = สาระ + บันเทิง (เคล็ดลับ – ขอให้สนุกกับมันก่อน แล้วสาระบันเทิงก็จะตามมาเอง)
- หากเกิดปัญหาขึ้นระหว่างที่เรานำเสนอ ?ไม่จำเป็นต้องบอกขอโทษ? แต่ให้ยอมรับว่ามีปัญหา ยิ้ม และเดินหน้าต่อไป (อย่าทำให้รู้สึกเป็นเรื่องใหญ่) – หมายเหตุ : ลองดู YouTube การเปิดตัว iPhone ในงาน Mac World 2007 ตอนที่พูด Market Opportunity ดูว่าจ็อบส์ทำอย่างไรตอน slide ค้าง
- เปลี่ยนมุมมองของคุณใหม่เสีย เมื่อมีบางอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ ก็ไม่จำเป็นว่ามันคือ ?ความผิดพลาด? จงรักษาภาพใหญ่ในการนำเสนอไว้ สนุกสนาน และปล่อยให้เรื่องหยุมหยิมผ่านไป
![]() |
ตัวอย่างหนังสือ Steve Jobs |
แถมท้ายจากคุณ Jimmy Live ครับ
สตีฟ จ็อบส์ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกัน "ความล้มเหลว" ไว้กับ The Wall Street Journal เมื่อ 25 พฤษภาคม 1993…
"…การเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดที่นอนอยู่ในสุสาน ไม่มีความหมายใดๆกับผมเลย… สิ่งที่มีความหมายต่อผมคือ ทุกคืนที่เข้านอนผมได้บอกตัวเองว่าวันนี้ได้ทำบางสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้สำเร็จต่างหาก…
แน่นอนว่าการสร้างนวัตกรรมนั้นย่อมมีความล้มเหลวเป็นธรรมดา ทางที่ดีที่สุดคือยอมรับความล้มเหลวนั้น แล้วก็สร้างนวัตกรรมใหม่ให้ดีขึ้น…."
Cr : ipattt.com
COMMENTS