จุดเด่นของ MacBook ทุกวันนี้ เราเชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วไป มักจะฝากชีวิตไว้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุคมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เนื่องด้ว...
จุดเด่นของ MacBook
ทุกวันนี้ เราเชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วไป มักจะฝากชีวิตไว้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุคมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เนื่องด้วยความสะดวกในการพกพาและราคาที่ย่อมเยาลงมามาก จนอาจพูดได้ว่าโน้ตบุค 1 เครื่อง หมายถึงชีวิตออนไลน์และการทำงานของคนคนหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรือรวยล้นฟ้า บางคนก็ใช้แค่โน้ตบุคเครื่องเดียวเป็นคอมพิวเตอร์ประจำกาย
ถึงแม้ว่าสินค้าตระกูลโน้ตบุคทั้งหมดของแอปเปิล จะมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าผู้ผลิตเจ้าอื่น คือราว 40,000 บาทเป็นอย่างต่ำ แต่นั่นก็มาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหรา สวยงาม น้ำหนักเบา วัสดุมีความทนทานสูงจากการผลิตแบบ Unibody ด้วยการเจาะอะลูมิเนียมชิ้นเดียวให้เป็นโครงสร้างของเครื่อง
ยังไม่รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ปลอดภัยและเสถียรมากอย่าง OS X, ชุดโปรแกรมตัดต่อวิดีโอและเพลง iLife, ชุดโปรแกรมสำนักงาน iWork, iTunes และ iCloud ที่เข้ามาเสริมกันและกันให้โน้ตบุคในตระกูล MacBook ดูคุ้มราคาขึ้นมา จึงทำให้ผู้ใช้หลายคน เลือกที่จะซื้อของดี แล้วใช้งานในระยะยาวจนคุ้มค่า มากกว่าที่จะซื้อโน้ตบุคราคาถูก แต่ใช้งานได้ไม่ดีเท่านั่นเอง
เมื่อหันมามองที่โน้ตบุคในตระกูล MacBook แล้ว ณ ปัจจุบัน (เมษายน 2015) มีสินค้าทั้งหมด 4 รุ่นใหญ่ ได้แก่
- MacBook Airโน้ตบุคสำหรับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป มีจุดเด่นที่ความบางและน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เอื้อต่อการพกพา มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว
- MacBook Proโน้ตบุคสำหรับผู้ที่ต้องการความครบครันในเครื่องเดียว เป็นโน้ตบุคของ Apple เพียงรุ่นเดียวที่ยังคงมีช่องอ่านแผ่น DVD ในตัว ซึ่งในตลาดประเทศกำลังพัฒนาที่โครงข่ายอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานอยู่ มีให้เลือกขนาดเดียว คือ 13 นิ้ว
- MacBook Pro หน้าจอ Retinaโน้ตบุคตระกูลโปร สำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพ มาพร้อมกับ Retina display ความละเอียดสูง ที่เหมาะกับงานตัดต่อต่าง ๆ รวมถึงมีน้ำหนักเบา และพอร์ตเชื่อมต่อความเร็วสูง มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว
- MacBook (มาพร้อมหน้าจอ Retina)
โน้ตบุครุ่นใหม่ล่าสุดของแอปเปิล สำหรับผู้ต้องการความบางเบาเป็นพิเศษ ด้วยน้ำหนักแค่ 920 กรัม ทำให้พกพาไปที่ไหนก็สะดวก มีให้เลือกขนาดเดียวคือหน้าจอ 12 นิ้ว (ในขนาดตัวเครื่องพอกันกับ MacBook Air รุ่น 11 นิ้ว)สำหรับ MacBook รุ่นใหม่นี้ จะมีช่องเชื่อมต่อเพียงช่องเดียว คือ USB-C ที่ใช้ทั้งชาร์จไฟ, ต่อจอภาพภายนอก, เสียบอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยแอปเปิลมองว่าในอนาคต ผู้ใช้จะเชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ ผ่านระบบไร้สายภายในระบบนิเวศน์ของแอปเปิลเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินเทอร์เน็ต ต่อปรินเตอร์ และสำรองข้อมูลผ่าน Wi-Fi, เชื่อมต่อจอภาพด้วย Apple TV, โอนไฟล์หากันด้วย iCloud และ AirDrop หรือบริการออนไลน์อื่น ๆ ฯลฯสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ณ เวลานี้ ปี 2015 การที่ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใด ๆ ที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ในปัจจุบันได้เลย อาจสร้างความลำบากให้เล็กน้อย แต่หากดูสเปคของ MacBook ตัวนี้แล้ว จะพบว่า น้ำหนักที่เบามากของทั้งตัวเครื่อง, ที่ชาร์จ (ที่ไม่ต้องพกก็ได้เพราะแบตเตอรีอึดอยู่แล้ว) และสายแปลงพอร์ต (ให้เสียบ USB แบบปกติได้) ที่ควรซื้อเพิ่ม เมื่อนำมาคิดรวมกันแล้ว ยังเบากว่าการพก MacBook Air ด้วยซ้ำไป! จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจขึ้นมาทีเดียว
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ
หากเปรียบเทียบสเปคของ MacBook ทั้ง 4 ชนิดออกมา จะได้ดังตารางด้านล่างนี้
อนึ่ง ผู้ที่เข้ามาอ่านบน iPhone หรือ Android ให้พลิกจอเป็นแนวนอน จะดูตารางแบบเต็ม ๆ ได้สะดวกครับ
จุดเด่นของสเปคในแต่ละรุ่น จะใช้ ตัวอักษรสีน้ำเงิน เน้นข้อมูล
จุดเด่นของสเปคในแต่ละรุ่น จะใช้ ตัวอักษรสีน้ำเงิน เน้นข้อมูล
MacBook | MacBook Air | MacBook Pro | MacBook Pro หน้าจอ Retina | |
ความหนา | ส่วนปลาย 0.35 cm ไล่ไปถึง 1.31 cm | ส่วนปลาย 0.3 cm ไล่ไปถึง 1.7 cm | 2.41 cm | 1.8 cm |
น้ำหนักเครื่อง | รุ่น 12″: 0.92 kg | รุ่น 11″: 1.08 kg รุ่น 13″: 1.35 kg | – รุ่น 13″: 2.06 kg | – รุ่น 13″: 1.58 kg รุ่น 15″: 2.02 kg |
น้ำหนักที่ชาร์จ | รวมสาย 2 เมตร แล้ว ประมาณ 0.17 kg*1 | รวมสาย 1 เมตร ประมาณ 0.20 kg | รวมสาย 1 เมตรแล้ว รุ่น 13″: ประมาณ 0.29 kg รุ่น 15″: ประมาณ 0.34 kg | |
น้ำหนักที่ชาร์จไม่รวมสายพ่วงเพิ่มขนาด 90cm อีก 0.14 kg | ||||
สายชาร์จ | USB-C (หัวเล็ก) | MagSafe 2 (หัวแบน ทรงตัว T) | MagSafe (หัวกลม ทรงตัว L) | MagSafe 2 (หัวแบน ทรงตัว T) |
หน่วยประมวลผล (CPU) | ทั่วไป ปานกลาง และประหยัดไฟ | ทั่วไป ปานกลาง | ทั่วไป ค่อนข้างช้า | หน่วยประมวลรุ่นสูง ประมวลผลรวดเร็ว (ยิ่งรุ่น 15″ ยิ่งเร็วมาก) |
สื่อสำหรับ อ่าน-เขียนข้อมูล | Flash storage ความเร็วสูง | Flash storage ความเร็วสูง*2 | Hard disk drive (เปลี่ยนเป็น Flash storage ได้) | Flash storage ความเร็วสูง |
หน้าจอ | จอ Retina ความละเอียดสูง ความคมชัดสูงมาก และลดแสงสะท้อน | ความละเอียดปกติ | ความละเอียดต่ำ | จอ Retina ความละเอียดสูงมาก ความคมชัดสูงมาก และลดแสงสะท้อน |
ความคมชัด ของหน้าจอ | รุ่น 12″: 226 PPI | รุ่น 11″: 135 PPI รุ่น 13″: 127 PPI | – รุ่น 13″: 113 PPI | – รุ่น 13″: 226 PPI รุ่น 15″: 220 PPI |
พื้นที่ทำงาน (พิกเซล) | รุ่น 12″: 1440×900(พื้นที่ทำงานสูงสุด*3) | รุ่น 11″: 1366×768 รุ่น 13″: 1440×900 | – รุ่น 13″: 1280×800 | – รุ่น 13″: 1680×1050 รุ่น 15″: 1920×1200 (พื้นที่ทำงานสูงสุด*3) |
กราฟฟิก (GPU) | ค่อนข้างดี | ค่อนข้างดี | พื้นฐาน | ดีมาก กราฟฟิกระดับสูง*4 |
เสียบ USB (เช่น Flash drive) | (ซื้อสายแปลง) | มี USB 3.0 ความเร็วสูงให้ 2 ช่อง | ||
DVD Drive | (ซื้อแยก) | (ซื้อแยก) | มี (Built-in) | (ซื้อแยก) |
ช่องเสียบสาย LAN | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) | มี (Built-in) | (ซื้อสายแปลง) |
ช่องอ่าน SD Card | (ซื้อแยก) | มีเฉพาะรุ่น 13″ | มี | มี |
ต่อจอภาพภายนอก | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) |
ต่อจอภาพผ่าน HDMI | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) | (ซื้อสายแปลง) | ทำได้ทันที |
แบตเตอรี (ใช้งานจริง) | รุ่น 12″: 9-10 ชั่วโมง | รุ่น 11″: 9-10 ชั่วโมง รุ่น 13″: 12-13 ชั่วโมง | – รุ่น 13″: 5-7 ชั่วโมง | – รุ่น 13″: 10-12 ชั่วโมง รุ่น 15″: 7-8 ชั่วโมง |
สีสัน | เงิน, เทา, ทอง | เงิน | เงิน | เงิน |
อื่น ๆ | ทุกรุ่นมี Wi-Fi และ Bluetooth 4.0 (ประหยัดพลังงาน) ไฟเรืองแสงใต้คีย์บอร์ด กล้อง FaceTime HD 1.2 ล้านพิกเซล (เว้น MacBook รุ่น 12″ ที่ใช้กล้อง VGA) |
*1 รอข้อมูลอย่างเป็นทางการหลังวางจำหน่าย (ข้อมูลข้างต้นอ้างอิงจากที่ชาร์จ iPad)
*2 MacBook Air รุ่น 11 นิ้ว ใช้ Flash storage ความเร็วต่ำกว่ารุ่น 13 นิ้วเล็กน้อย แต่ยังถือว่าเร็วกว่า MacBook Pro รุ่นที่มีช่องใส่ DVD ในตัวมาก
*3 โดยค่าพื้นฐานที่มากับเครื่องแล้ว MacBook รุ่นที่ใช้หน้าจอ Retina จะให้พื้นที่ทำงานบนหน้าจอคล้ายรุ่นปกติ บนความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลต่อ 1 นิ้ว (PPI) ที่มากกว่าเดิม 2 เท่า ดังนี้
- รุ่น 12 นิ้ว – เสมือนหน้าจอ 1152×720 พิกเซล (ปรับเพิ่มเป็น 1280×800 หรือ 1440×900 พิกเซลได้)
- รุ่น 13 นิ้ว – เสมือนหน้าจอ 1280×800 พิกเซล (ปรับเพิ่มเป็น 1440×900 หรือ 1680×1050 พิกเซลได้)
- รุ่น 15 นิ้ว – เสมือนหน้าจอ 1440×900 พิกเซล (ปรับเพิ่มเป็น 1680×1050 หรือ 1920×1200 พิกเซลได้)
หรือพูดง่าย ๆ ว่า Retina display ทำให้เราเห็นทุกอย่างบนจอในขนาดเท่ากันกับจอปกติ แต่คมชัดกว่า 2 เท่ายิ่งตัวเลข PPI สูงเท่าไร ภาพที่ได้ยิ่งคมชัดมากเท่านั้น (ปกติจอขนาดใหญ่จะ PPI น้อยกว่า เพราะระยะการมองไกลกว่า ภาพที่ออกมาจะเนียนเท่ากัน)
*4 MacBook Pro รุ่นหน้าจอ Retina จะให้กราฟฟิกชนิดฝังกับหน่วยประมวลผลหลัก (Onboard graphics) เช่นเดียวกับในรุ่นอื่น แต่มีความสามารถสูงกว่า และในรุ่นแพงสุด จะใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิกคู่ (Onboard และ Discrete graphics อย่างละตัว)
COMMENTS